ข้อตกลงของ Google Apps for Education ("ข้อตกลง") เป็นเงื่อนไขผูกพันระหว่าง Google Inc. ("Google") และลูกค้าที่ระบุในเอกสารการสั่งซื้อ ("ลูกค้า") ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ลูกค้าคลิกที่ปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่างหรือวันที่มีการลงนามในข้อตกลงนี้ตามกรณีที่เหมาะสม ("วันที่มีผล") ถ้าคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของลูกค้า ถือว่าคุณรับรองและรับประกันว่า: (i) คุณมีอำนาจตามกฎหมายเต็มที่จะลงนามผูกพันผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่นภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ (ii) คุณได้อ่านและทำความเข้าใจกับข้อตกลงนี้ และ (iii) คุณยอมรับข้อตกลงนี้ ในนามของบุคคลหรือฝ่ายที่คุณเป็นตัวแทน ถ้าคุณไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะลงนามผูกพันแทนลูกค้า โปรดอย่าคลิกที่ปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง (หรือในกรณีที่เหมาะสม โปรดอย่าลงชื่อในข้อตกลงนี้) ข้อตกลงนี้มีผลบังคับต่อการเข้าถึงและการใช้งานบริการของลูกค้า และจะมีผลบังคับตั้งแต่วันที่มีผลเป็นต้นไป
- 1. บริการ
- 1.1 หน่วยงานและการโอนข้อมูล หน่วยงานทั้งหมดที่ใช้เพื่อเก็บและประมวลผลข้อมูลลูกค้าจะปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างสมเหตุสมผล มีการป้องกันไม่น้อยกว่ามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของหน่วยงานที่ Google ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลของตนเองที่มีประเภทคล้ายกัน Google จะใช้ระบบและกระบวนการที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นอย่างน้อยเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูลของลูกค้า ป้องกันภัยคุกคามหรืออันตรายที่คาดไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูลของลูกค้า และป้องกันการเข้าถึงหรือการใช้งานข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในฐานะส่วนหนึ่งของการให้บริการ Google อาจมีการโอนย้าย จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ที่ Google หรือตัวแทนมีหน่วยงานอยู่ ในการใช้บริการ ลูกค้ายินยอมให้มีการโอน ประมวลผล และเก็บข้อมูลลูกค้าดังที่กล่าวมา
- 1.2 การแก้ไข
- ก. บริการ Google อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงซึ่งสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์กับข้อตกลงนี้ในบางโอกาส ถ้า Google มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในส่วนของบริการ Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบ หากลูกค้าได้สมัครรับข้อมูลเพื่อให้ทราบข้อมูลการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจาก Google
- ข. ข้อกำหนดของ URL Google อาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์กับข้อกำหนดของ URL ในบางโอกาส ถ้า Google เปลี่ยนแปลงข้อกำหนดของ URL ในส่วนที่มีสาระสำคัญ Google จะแจ้งให้ลูกค้าทราบโดยการส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลการแจ้งเตือนหรือโดยการเตือนลูกค้าผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ ถ้าการเปลี่ยนแปลงมีผลเสียอย่างเป็นรูปธรรมกับลูกค้า และลูกค้าไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ Google ทราบทางศูนย์ช่วยเหลือภายใน 30 วันนับจากได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลง ถ้าลูกค้าแจ้ง Google ตามกำหนด ลูกค้าจะยังคงอยู่ภายใต้ข้อกำหนดสุดท้ายที่มีผลก่อนการเปลี่ยนแปลง จนถึงสิ้นสุดระยะเวลาของข้อกำหนดที่ใช้อยู่ในขณะนั้น ถ้ามีการต่ออายุบริการ บริการดังกล่าวจะได้รับการต่ออายุภายใต้ข้อกำหนด URL ในขณะนั้นของ Google
- 1.3 ชื่อแทน ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบ ตอบกลับ และประมวลผลในทางอื่นๆ กับอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทน "abuse" และ "postmaster" สำหรับชื่อโดเมนของลูกค้า แต่ Google อาจตรวจสอบอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทนเหล่านี้สำหรับชื่อโดเมนของลูกค้าเพื่อให้ Google สามารถระบุถึงการละเมิดบริการได้
- 1.4 โฆษณา Google ไม่ได้แสดงโฆษณาในบริการ หรือใช้ข้อมูลของลูกค้าเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณา
- 1.5 บัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าสามารถร้องขอบัญชีผู้ใช้ปลายทางได้โดย:(i) ร้องขอทางออนไลน์ผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ หรือ (ii) ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของ Google หลังจากวันที่เริ่มต้นบริการ ลูกค้าสามารถระงับหรือลบบัญชีผู้ใช้ปลายทางเมื่อใดก็ได้ผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ
- 1.6 Google Apps ห้องนิรภัย ถ้าลูกค้าซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย
ข้อกำหนดเพิ่มเติมต่อไปนี้จะมีผล:
- ก. การเก็บรักษา Google จะไม่มีภาระหน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าที่เก็บถาวรไว้เกินจากระยะเวลาเก็บรักษาที่ลูกค้ากำหนด (นอกเหนือจากการเก็บรักษาข้อมูลระหว่างดำเนินคดี) ถ้าลูกค้าไม่ต่ออายุ Google Apps ห้องนิรภัย Google จะไม่มีภาระหน้าที่ในการเก็บรักษาข้อมูลของลูกค้าที่เก็บถาวรไว้
- ข. การซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย เป็นครั้งแรก ครั้งแรกที่ซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย จะถือว่าลูกค้ายินยอมที่จะซื้อบัญชีผู้ใช้ปลายทางของ Google Apps ห้องนิรภัยสำหรับพนักงานทั้งหมดที่มีบัญชีผู้ใช้ปลายทางของ Google Apps for Education ลูกค้าสามารถใช้ Google Apps ห้องนิรภัยสำหรับนักเรียนและศิษย์เก่าได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
- ค. บัญชีผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติมสำหรับพนักงาน หลังจากลูกค้าได้ซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย เป็นครั้งแรก หากในระหว่างระยะเวลาของบริการ ลูกค้าเพิ่มบัญชีผู้ใช้ปลายทางสำหรับพนักงานอย่างน้อย 20% จากที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ในระหว่างระยะเวลาของบริการ แสดงว่าลูกค้ายินยอมที่จะซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย สำหรับบัญชีผู้ใช้ปลายทางเพิ่มเติมดังกล่าวสำหรับระยะเวลาของบริการ Google Apps ห้องนิรภัย ที่เหลืออยู่ของลูกค้าในปัจจุบัน ณ ขณะนั้น นอกจากนี้ เมื่อครบรอบวันที่เริ่มต้นเรียกเก็บเงิน ลูกค้ายินยอมที่จะซื้อ Google Apps ห้องนิรภัย สำหรับบัญชีผู้ใช้ปลายทางของพนักงานเพิ่มเติมที่ได้เพิ่มเกินกว่าที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ สำหรับระยะเวลาของบริการ Google Apps ห้องนิรภัย ที่เหลืออยู่ของลูกค้าในปัจจุบัน ณ ขณะนั้น
- 1.7 ประกาศเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคล ประกาศเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคลของ Google Apps for Education กำกับดูแลวิธีที่ Google ใช้รวบรวมและใช้ข้อมูลจากลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง
- 2. ภาระหน้าที่ของลูกค้า
- 2.1 การใช้งานที่ได้รับอนุญาต บริการนี้อนุญาตให้ใช้งานได้เฉพาะกับ (ก) สถาบันการศึกษาที่ไม่แสวงหากำไร และ (ข) หน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไรอื่นๆ (ตามที่ระบุไว้ภายใต้บทบัญญัติที่เกี่ยวข้องของรัฐ)
- 2.2 การปฏิบัติตามข้อกำหนด ลูกค้าจะใช้งานบริการตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ Google อาจสร้างแอปพลิเคชัน คุณลักษณะ หรือฟังก์ชันการทำงานเพิ่มเติมสำหรับบริการเป็นครั้งคราว ซึ่งการใช้งานอาจขึ้นอยู่กับการยอมรับในข้อกำหนดเพิ่มเติมของลูกค้า นอกจากนี้ Google จะกำหนดให้ลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps (นอกเหนือจากบริการ) ได้โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps และข้อกำหนดในการให้บริการของผลิตภัณฑ์ Google ที่เกี่ยวข้องนั้นๆ ถ้าลูกค้าไม่ประสงค์ที่จะเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps ใดๆ ลูกค้าก็สามารถเปิดหรือปิดใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ตลอดเวลาผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ
- 2.3 การดูแลระบบบริการของลูกค้า ลูกค้าอาจระบุผู้ดูแลระบบอย่างน้อยหนึ่งคนผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบและจัดการบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อ: (ก) การรักษาความลับของรหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบ (ข) การมอบหมายให้บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ และ (ค) การดูแลให้กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากบัญชีผู้ดูแลระบบเป็นไปตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ายอมรับว่าความรับผิดชอบของ Google จะไม่รวมถึงการจัดการภายในหรือการดูแลบริการสำหรับลูกค้า และ Google เป็นเพียงผู้ประมวลผลข้อมูลเท่านั้น
- 2.4 ความยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ผู้ดูแลระบบของลูกค้าจะมีความสามารถในการเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลที่สามารถใช้ได้กับผู้ใช้ปลายทางภายในบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าจะขอรับและรักษาหนังสือแสดงความยินยอมทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้ใช้ปลายทาง เพื่ออนุญาตให้: (i) ลูกค้าสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลนี้ และเพื่อให้ Google กำหนดให้ลูกค้าสามารถดำเนินการดังกล่าว และ (ii) Google สามารถให้บริการได้
- 2.5 คำยินยอมของผู้ปกครอง ภายใต้ส่วนที่ 10.1 ด้านล่าง ลูกค้ามีหน้าที่ปฏิบัติตาม Children's Online Privacy Protection Act ปี 1998 ซึ่งรวมถึงการได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองในการรวบรวมข้อมูลส่วนตัวในบริการนี้หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps ซึ่งลูกค้าอนุญาตให้ผู้ใช้ปลายทางเข้าถึงได้ และลูกค้าจะต้องได้รับคำยินยอมจากผู้ปกครองก่อนอนุญาตให้ผู้ใช้ปลายทางรายใดที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps
- 2.6 การใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าจะใช้ความพยายามตามเหตุผลอันสมควรทางการค้าเพื่อป้องกันการใช้งานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต และยุติการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ก็ตาม ลูกค้าจะแจ้งการใช้งานหรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตถึง Google โดยทันทีที่ทราบ
- 2.7 ข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งาน ยกเว้นกรณีที่ Google ยอมรับอย่างเจาะจงและเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกค้าจะไม่และจะใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่สามจะไม่ (ก) จำหน่าย จำหน่ายต่อ ให้เช่าบริการนี้แก่บุคคลที่สาม หรือดำเนินการใดๆ ที่เทียบเท่ากันในเชิงการใช้งาน (ยกเว้นที่อนุญาตอย่างชัดแจ้งในข้อตกลงนี้) (ข) พยายามทำกระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับต่อบริการหรือองค์ประกอบใดๆ (ค) พยายามสร้างบริการทดแทนหรือบริการที่คล้ายกันผ่านการใช้หรือการเข้าถึงบริการ (ง) ใช้บริการเพื่อกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หรือ (จ) ใช้บริการเพื่อเก็บหรือโอนข้อมูลของลูกค้าที่มีการควบคุมการส่งออกตามกฎหมายควบคุมการส่งออก ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการปฏิบัติตาม HIPAA แต่เพียงผู้เดียว
- 2.8 คำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการตามคำขอของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและตามข้อกำหนดของคำขอของบุคคลที่สามเพื่อ (ก) แจ้งแก่ลูกค้าโดยทันทีเมื่อได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขออันสมเหตุสมผลของลูกค้าเกี่ยวกับการพยายามที่จะคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) ให้ข้อมูลและเครื่องมือแก่ลูกค้าตามที่จำเป็นในการที่ลูกค้าจะตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สาม ขั้นแรก ลูกค้าจะดำเนินการเพื่อขอรับข้อมูลที่จำเป็นในการตอบสนองต่อคำขอของบุคคลที่สามด้วยตนเอง และจะติดต่อ Google เฉพาะเมื่อมีเหตุผลอันสมควรที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น
- 3. การชำระเงิน ถ้าซื้อบริการมาโดยเสียค่าใช้จ่าย
ข้อกำหนดในข้อ 3 นี้จะมีผลกับบริการเหล่านั้น
- 3.1 การชำระเงิน ค่าบริการทั้งหมดมีกำหนดชำระภายใน 30
วันนับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้ การชำระเงินทั้งหมดจะกระทำเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ
การชำระเงินที่ดำเนินการด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารจะต้องกรอกข้อมูลตามคำแนะนำต่อไปนี้:
ชื่อธนาคาร: หมายเลข ABA: หมายเลขบัญชี: Wells Fargo Bank
Palo Alto, California USA121000248
Google Inc.4375669785 - 3.2 การชำระเงินล่าช้า การชำระเงินล่าช้าจะมีการคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1.5 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน (หรืออัตราที่สูงสุดเท่าที่กฎหมายกำหนด ถ้าน้อยกว่านี้) จากวันที่ครบกำหนดการชำระเงินจนกว่าจะชำระเงินจนครบถ้วน ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดตามที่สมควร (รวมถึงค่าทนาย) ที่เกิดขึ้นแก่ Google ในการเรียกเก็บเงินค้างชำระหรือชำระล่าช้า ยกเว้นกรณีที่จำนวนเงินที่ค้างชำระหรือล่าช้านั้นเกิดจากความผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินของ Google
- 3.3 คำสั่งซื้อ
- ก. ต้องระบุ ถ้าลูกค้าต้องการให้ระบุหมายเลขคำสั่งซื้อในใบแจ้งหนี้ ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ Google ทราบและออกคำสั่งซื้อให้ Google ถ้าลูกค้าต้องใช้คำสั่งซื้อแต่ไม่ได้ให้คำสั่งซื้อแก่ Google จะถือว่า Google ไม่มีภาระหน้าที่ในการให้บริการจนกว่า Google จะได้รับคำสั่งซื้อ ข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆ ในคำสั่งซื้อไม่มีผลกับข้อตกลงนี้ และถือเป็นโมฆะ
- ข. ไม่ต้องระบุ ถ้าลูกค้าไม่ต้องการให้ระบุหมายเลขคำสั่งซื้อในใบแจ้งหนี้ ลูกค้าจะต้องแจ้งแก่ Google ให้ทราบว่าขอสละสิทธิ์ในข้อกำหนดคำสั่งซื้อ ซึ่งสามารถส่งอีเมลแจ้งได้ ถ้าลูกค้าสละสิทธิ์ในข้อกำหนดคำสั่งซื้อ จากนั้น: (ก) Google จะออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าโดยไม่มีคำสั่งซื้อ และ (ข) ลูกค้ายินยอมที่จะชำระเงินตามใบแจ้งหนี้โดยไม่มีคำสั่งซื้อ
- 3.4 ภาษี ลูกค้าต้องรับผิดชอบชำระค่าภาษีเอง และจะชำระค่าบริการแก่ Google โดยไม่มีการหักภาษี ถ้า Google มีภาระหน้าที่ตามกฎหมายที่จะชำระหรือเก็บภาษี จะมีการส่งใบเรียกเก็บภาษีให้แก่ลูกค้า ยกเว้นกรณีที่ลูกค้าแสดงใบรับรองการยกเว้นภาษีที่ถูกต้องซึ่งได้รับการอนุมัติโดยหน่วยงานภาษีที่เหมาะสมแก่ Google ถ้ากฎหมายกำหนดให้ลูกค้าหักภาษี ณ ที่จ่ายกับ Google ลูกค้าต้องให้ใบกำกับภาษีอย่างเป็นทางการ หรือเอกสารอื่นที่เหมาะสมแก่ Google เพื่อสนับสนุนการชำระเงินดังกล่าว
- 3.5 ข้อพิพาทเกี่ยวกับใบแจ้งหนี้ ต้องส่งข้อพิพาทเกี่ยวกับใบแจ้งหนี้ก่อนวันที่ครบกำหนดตามใบแจ้งหนี้ ถ้าคู่สัญญาพิจารณาเห็นว่าข้อผิดพลาดในการเรียกเก็บเงินนั้นเกิดขึ้นในส่วนของ Google ในกรณีนี้ Google จะไม่ออกใบแจ้งหนี้ฉบับแก้ไขใหม่ แต่จะออกใบลดหนี้เพื่อระบุจำนวนเงินที่ไม่ถูกต้องในใบแจ้งหนี้ที่เกี่ยวข้อง ถ้าใบแจ้งหนี้ที่มีข้อพิพาทยังไม่มีการชำระเงิน Google จะนำใบลดหนี้มาใช้กับใบแจ้งหนี้ที่มีข้อพิพาท และลูกค้าจะต้องชำระเงินตามยอดเงินคงเหลือสุทธิในใบแจ้งหนี้ดังกล่าวหลังจากหักใบลดหนี้แล้ว
- 3.1 การชำระเงิน ค่าบริการทั้งหมดมีกำหนดชำระภายใน 30
วันนับจากวันที่ออกใบแจ้งหนี้ การชำระเงินทั้งหมดจะกระทำเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ
การชำระเงินที่ดำเนินการด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารจะต้องกรอกข้อมูลตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- 4. ใบแจ้งหนี้และอัตราค่าบริการ ถ้าซื้อบริการมาโดยเสียค่าใช้จ่าย ข้อกำหนดในข้อ 4 นี้จะมีผลกับบริการเหล่านั้น ในวันที่หรือหลังจากวันที่เริ่มต้นเรียกเก็บเงิน Google จะออกใบแจ้งหนี้ให้กับลูกค้าตามค่าบริการแต่ละอย่างที่เกี่ยวข้อง กล่าวคือ ชำระเงินล่วงหน้าสำหรับการเรียกเก็บเงินรายเดือน การเรียกเก็บเงินรายปี หรือค่าบริการเริ่มต้น (ตามแต่ละกรณี) โดยจะระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ
- 5. บริการสนับสนุนทางเทคนิค
- 5.1 โดยลูกค้า ลูกค้าจะต้องดำเนินการกับคำถามและข้อร้องเรียนจากผู้ใช้ปลายทางหรือบุคคลที่สามเกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง โดยแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ลูกค้าจะใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ เพื่อแก้ไขปัญหาการสนับสนุนก่อนที่จะยกระดับให้กับ Google
- 5.2 โดย Google หากลูกค้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านการสนับสนุนตามที่กล่าวข้างต้น ลูกค้าสามารถแจ้งปัญหาแก่ Google ตามหลักเกณฑ์ TSS ในกรณีนี้ Google จะให้บริการ TSS แก่ลูกค้าตามหลักเกณฑ์ TSS
- 6. การระงับ
- 6.1 บัญชีผู้ใช้ปลายทางโดย Google ถ้า Google ทราบเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงของผู้ใช้ปลายทาง Google สามารถร้องขอเป็นการเฉพาะเพื่อให้ลูกค้าระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เกี่ยวข้องนั้นได้ ถ้าลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของ Google ในการระงับบัญชีของผู้ใช้ปลายทาง Google อาจดำเนินการเอง ระยะเวลาของการระงับโดย Google จะเป็นการระงับจนกว่าผู้ใช้ปลายทางได้แก้ไขการละเมิดซึ่งทำให้เกิดการระงับนั้นๆ
- 6.2 ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน แม้ว่าจะมีเงื่อนไขดังที่กล่าวมา หากเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน Google สามารถระงับการใช้บริการได้โดยอัตโนมัติ การระงับจะอยู่ภายในขอบเขตและระยะเวลาต่ำสุดที่จำเป็น เพื่อป้องกันหรือยุติปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน หาก Google ระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางด้วยสาเหตุใดๆ ก็ตามโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าแก่ลูกค้า Google จะแสดงสาเหตุสำหรับการระงับให้แก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุดอย่างสมเหตุสมผล ทั้งนี้จะเป็นไปตามคำขอของลูกค้า
- 7. ข้อมูลที่เป็นความลับ
- 7.1 ภาระหน้าที่ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะดำเนินการดังนี้: (ก) คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายด้วยมาตรฐานการดูแลเดียวกับที่ใช้ในการคุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของตนเอง และ (ข) ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ยกเว้นกับหน่วยงานในเครือ พนักงานและตัวแทนที่จำเป็นต้องทราบ และยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะเก็บรักษาความลับนั้น คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (และหน่วยงานในเครือ พนักงาน และตัวแทนที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ) สามารถใช้ข้อมูลที่เป็นความลับเพื่อใช้สิทธิ์และปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงนี้เท่านั้น พร้อมทั้งใช้ความระมัดระวังอย่างสมเหตุสมผลในการคุ้มครองข้อมูล คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการกระทำของหน่วยงานในเครือ พนักงาน และตัวแทนของตนในการละเมิดหัวข้อนี้
- 7.2 ข้อยกเว้น ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้ (ก) ผู้รับข้อมูลที่เป็นความลับทราบถึงข้อมูลนี้อยู่แล้ว (ข) กลายเป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่ใช่ความผิดของผู้รับ (ค) มีการพัฒนาโดยอิสระโดยผู้รับ หรือ (ง) ผู้รับได้รับมอบโดยชอบธรรมจากบุคคลอื่น
- 7.3 การเปิดเผยข้อมูลที่กำหนด คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายเมื่อกฎหมายกำหนด และเมื่อกฎหมายอนุญาต เฉพาะเมื่อดำเนินการดังต่อไปนี้แล้ว: (ก) ใช้ความพยายามที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อแจ้งแก่อีกฝ่าย และ (ข) ให้โอกาสอีกฝ่ายเพื่อคัดค้านการเปิดเผยดังกล่าว
- 7.4 FERPA ทั้งสองฝ่ายรับทราบว่า (ก) ข้อมูลของลูกค้าอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้จากบันทึกทางการศึกษาที่เป็นไปตามข้อกำหนด FERPA ("ข้อมูล FERPA") และ (ข) ภายในขอบเขตที่ข้อมูลของลูกค้ามีข้อมูล FERPA นั้น ให้ถือว่า Google เป็น "เจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการของโรงเรียน" (ตามถ้อยคำที่ใช้ใน FERPA และระเบียบในการบังคับใช้) และจะเป็นไปตามข้อกำหนดของ FERPA
- 8. สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา คุณลักษณะของตราสินค้า
- 8.1 สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา ยกเว้นที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในที่นี้ ข้อตกลงนี้ไม่ได้ให้สิทธิ์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งโดยนัยและอื่นๆ ในเนื้อหาของคู่สัญญาอีกฝ่ายหรือในทรัพย์สินทางปัญญาของอีกฝ่าย ระหว่างทั้งสองฝ่าย ลูกค้าจะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในข้อมูลของลูกค้า และ Google จะเป็นเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในบริการ
- 8.2 การแสดงคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ Google สามารถแสดงคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของลูกค้าที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า (การอนุญาตดังกล่าวมาจากการที่ลูกค้าอัปโหลดคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์เข้าสู่บริการ) ภายในพื้นที่ที่กำหนดในหน้าเว็บบริการเท่านั้น ลูกค้าสามารถระบุลักษณะการใช้งานได้ด้วยการใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบ Google สามารถแสดงคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของ Google ในหน้าเว็บบริการเพื่อระบุว่า Google เป็นผู้ให้บริการนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถแสดงหรือใช้คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของอีกฝ่าย ยกเว้นที่อนุญาตตามข้อตกลงนี้ โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย
- 8.3 ข้อจำกัดเกี่ยวกับคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ การใช้คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของแต่ละฝ่ายจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อฝ่ายที่ถือครองสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์เหล่านั้น ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถยกเลิกสิทธิ์ของอีกฝ่ายในการใช้คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของตนตามข้อตกลงนี้ พร้อมทั้งแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุระยะเวลาที่จะยุติการใช้งานอย่างสมเหตุสมผล
- 9. การประชาสัมพันธ์ ลูกค้ายอมรับว่า Google อาจใส่ชื่อหรือคุณลักษณะของตราสินค้าของลูกค้าในรายการลูกค้าของ Google ทั้งทางออนไลน์หรือในเอกสารประชาสัมพันธ์ ลูกค้ายอมรับว่า Google อาจอ้างถึงลูกค้าในทางวาจาว่าเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ หัวข้อนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของหัวข้อ 8.3
- 10. การรับรอง การรับประกัน
และข้อจำกัดความรับผิดชอบ
- 10.1 การรับรองและรับประกัน ทั้งสองฝ่ายรับรองว่ามีอำนาจเต็มในการทำข้อตกลงนี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทั้งหมดที่มีผลต่อการให้บริการหรือการใช้บริการของตน ตามแต่ละกรณี (รวมถึงกฎหมายว่าด้วยการแจ้งการละเมิดการรักษาความปลอดภัยที่มีผลบังคับ) Google รับประกันว่าจะให้บริการตาม SLA ที่มีผลบังคับใช้ ลูกค้ายอมรับและยินยอมที่จะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย Children's Online Privacy Protection Act ของปี 1998 รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงการขอความยินยอมจากผู้ปกครองเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับการให้และการใช้บริการนี้โดยลูกค้าและผู้ใช้ปลายทาง
- 10.2 ข้อจำกัดความรับผิดชอบ ภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต ยกเว้นที่ระบุอย่างชัดเจนในที่นี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายไม่มีการรับประกันใดๆ ทั้งแบบชัดแจ้ง โดยนัย ตามกฎหมายหรืออื่นๆ รวมถึง โดยไม่จำกัดเพียงการรับประกันคุณค่าความเป็นสินค้า ความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด และการไม่ละเมิดข้อกำหนด GOOGLE ไม่ให้การรับรองใดๆ เกี่ยวกับเนื้อหาหรือข้อมูลที่สามารถเข้าถึงโดยหรือผ่านบริการ ลูกค้ารับทราบว่าบริการนี้ไม่ใช่บริการโทรศัพท์ และบริการนี้ไม่สามารถโทรออกหรือรับสาย รวมถึงสายบริการฉุกเฉิน ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ผ่านชุมสายสาธารณะ
- 11. ระยะเวลาและค่าบริการ
- 11.1 ระยะเวลาของข้อตกลง ข้อตกลงนี้จะยังคงมีผลภายในระยะเวลาดังกล่าว
- 11.2 ระยะเวลาของบริการและการซื้อในระหว่างระยะเวลาของบริการ Google จะให้บริการแก่ลูกค้าในระหว่างระยะเวลาของบริการ ยกเว้นกรณีที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงเป็นอย่างอื่นอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร บัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เพิ่มระหว่างระยะเวลาของบริการใดๆ จะมีระยะเวลาที่กำหนดเป็นสัดส่วนโดยสิ้นสุด ณ วันสุดท้ายของระยะเวลาของบริการ
- 11.3 การต่ออายุอัตโนมัติ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของบริการ บริการ (และบัญชีผู้ใช้ปลายทางทั้งหมดที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้โดยเสียค่าใช้จ่าย) จะต่ออายุโดยอัตโนมัติเพื่อรับระยะเวลาของบริการเพิ่มอีก 12 เดือน ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ต้องการต่ออายุบริการ ต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างน้อย 15 วันก่อนสิ้นสุดระยะเวลาของบริการในปัจจุบัน ณ ขณะนั้ การแจ้งไม่ต่ออายุนี้จะมีผลเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาของบริการปัจจุบันในขณะนั้น
- 11.4 ค่าบริการ ในช่วงระยะเวลาเริ่มต้น Google จะไม่เรียกเก็บค่าบริการในการให้บริการจากลูกค้า (นอกเหนือจาก Google Apps ห้องนิรภัยหรือพื้นที่เก็บข้อมูลที่เสียค่าใช้จ่าย ถ้ามี) เมื่อเห็นพ้องกันเป็นลายลักษณ์อักษรทั้งสองฝ่าย (ก) Google อาจจะเรียกเก็บค่าบริการในการให้บริการจากลูกค้าหลังจากระยะเวลาของบริการเริ่มต้น และ (ข) Google อาจเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าสำหรับบริการระดับพรีเมียม หรือสำหรับฟังก์ชันหรือการปรับปรุงประสิทธิภาพที่เป็นตัวเลือกซึ่ง Google อาจเพิ่มในบริการนี้ (เช่น Google Apps ห้องนิรภัยหรือพื้นที่เก็บข้อมูลที่เสียค่าใช้จ่าย ถ้ามี)
- 11.5 การใช้บริการ ลูกค้าไม่มีภาระหน้าที่ในการใช้บริการและสามารถหยุดใช้บริการเมื่อใดก็ได้และด้วยเหตุผลใดก็ได้ (หรือโดยไม่มีเหตุผล)
- 11.6 การแก้ไขอัตราค่าบริการ สำหรับบริการที่ลูกค้าซื้อโดยเสียค่าใช้จ่าย Google อาจแก้ไขอัตราค่าบริการสำหรับระยะเวลาของบริการต่อไปนี้ โดยจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นลายลักษณ์อักษร (อาจเป็นทางอีเมล) อย่างน้อย 30 วันก่อนที่จะเริ่มต้นระยะเวลาของบริการต่อไปนี้
- 12. การยุติ
- 12.1 การยุติเนื่องจากการละเมิด คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถระงับการปฏิบัติตามหรือยุติข้อตกลงนี้ได้ถ้า: (i) คู่สัญญาอีกฝ่ายมีการละเมิดข้อตกลงที่เป็นสาระสำคัญ และไม่สามารถเยียวยาการละเมิดได้ภายใน 30 วันหลังจากได้รับการแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร (ii) คู่สัญญาอีกฝ่ายยุติการดำเนินธุรกิจ หรืออยู่ระหว่างการดำเนินคดีเพื่อเลิกกิจการ และการดำเนินการนั้นไม่ถูกยกเลิกภายใน 90 วัน หรือ (iii) คู่สัญญาอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงนี้อย่างเป็นรูปธรรมมากกว่า 2 ครั้ง แม้ว่าจะมีการเยียวยาการละเมิดเหล่านั้นแล้วก็ตาม
- 12.2 การยุติอื่นๆ ลูกค้าสามารถยุติข้อตกลงนี้ด้วยเหตุผลใดก็ได้ (หรือไม่มีเหตุผล) โดยมีการแจ้งให้ Google ทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า 30 วัน แต่โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าจะยังมีภาระหน้าที่ในการชำระค่าบริการสำหรับบริการที่ลูกค้าได้ซื้อไว้ในช่วงระยะเวลาของบริการที่เหลืออยู่ ณ ขณะนั้น
- 12.3 ผลของการยุติ ถ้าข้อตกลงนี้ยุติลง จะมีผลดังนี้: (i) สิทธิ์ที่ให้แก่คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะหยุดลงโดยทันที (ยกเว้นที่กำหนดในหัวข้อนี้) (ii) Google จะให้สิทธิ์ในการเข้าถึงและทำให้สามารถส่งออกข้อมูลของลูกค้าในระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าในอัตรา ณ ขณะนั้นของ Google สำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง (iii) หลังจากระยะเวลาที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์ Google จะลบข้อมูลของลูกค้าด้วยการนำตัวชี้ไปยังข้อมูลออกในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานจริงของ Google และเขียนทับเมื่อเวลาผ่านไป และ (iv) คู่สัญญาแต่ละฝ่ายจะใช้ความพยายามที่เหมาะสมในเชิงพาณิชย์เพื่อส่งคืนหรือทำลายข้อมูลที่เป็นความลับอื่นๆ ทั้งหมดของคู่สัญญาอีกฝ่ายเมื่อร้องขอ
- 13. การให้ความคุ้มครอง
- 13.1 โดย Google Google จะให้การคุ้มครอง ป้องกัน และดำเนินการเพื่อให้ลูกค้าพ้นจากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (รวมถึงค่าชำระคดีและค่าทนายที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดจากการเรียกร้องของบุคคลที่สามว่าเทคโนโลยีของ Google ที่ใช้ในการให้บริการหรือคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของ Google ละเมิดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้าหรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สามดังกล่าว แม้ว่าจะมีเงื่อนไขดังที่กล่าวมา ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตาม Google จะไม่มีภาระหน้าที่หรือความรับผิดภายใต้หัวข้อนี้ที่เกิดขึ้นจาก: (i) การใช้บริการหรือคุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์ของ Google ในรูปแบบที่มีการแก้ไขหรือร่วมกับเนื้อหาที่ไม่ได้มาจาก Google และ (ii) เนื้อหา สารสนเทศ หรือข้อมูลที่มาจากลูกค้า ผู้ใช้ปลายทาง หรือบุคคลที่สาม
- 13.2 การละเมิดที่อาจเป็นไปได้
- (ก) ซ่อมแซม แทนที่ หรือแก้ไข ถ้า Google มีเหตุอันควรให้เชื่อว่าบริการละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม Google จะดำเนินการดังนี้: (ก) ขอรับสิทธิ์สำหรับลูกค้า โดยที่ Google แบกรับค่าใช้จ่ายเอง เพื่อดำเนินการใช้บริการต่อไป (ข) ให้ฟังก์ชันการทำงานที่เทียบเท่ากับบริการโดยไม่ละเมิดสิทธิ์ หรือ (ค) แก้ไขบริการเพื่อให้ไม่มีการละเมิดอีก
- (ข) การระงับหรือการยุติ ถ้า Google ไม่เชื่อว่าตัวเลือกข้างต้นสามารถทำได้อย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Google อาจระงับหรือยุติการใช้บริการที่ได้รับผลกระทบของลูกค้า ถ้า Google ยุติบริการที่ได้รับผลกระทบ Google จะคืนเงินให้ตามอัตราส่วนสำหรับค่าบริการที่ยังไม่มีการให้บริการ (ถ้ามี) ซึ่งลูกค้าได้ชำระแล้ว ตามระยะเวลาหลังจากการยุติบริการดังกล่าว
- 13.3 ทั่วไป ลูกค้าจะแจ้ง Google ในทันทีที่มีข้อร้องเรียนและจะร่วมกับ Google ในการแก้ต่างข้อร้องเรียนดังกล่าว Google สามารถควบคุมและมีอำนาจเต็มในการแก้ต่าง ยกเว้น: (ก) การระงับคดีที่กำหนดให้ลูกค้าต้องยอมรับผิดหรือชำระเงิน จะต้องได้รับความยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากลูกค้าก่อน และความยินยอมดังกล่าวจะต้องกระทำโดยไม่รีรอหรือล่าช้าโดยปราศจากเหตุผล และ (ข) ลูกค้าสามารถเข้าร่วมการแก้ต่างในคดีโดยมีทนายความของตนเองและแบกรับค่าใช้จ่ายเอง การให้ความคุ้มครองข้างต้นเป็นการชดเชยเพียงอย่างเดียวของลูกค้าตามข้อตกลงนี้ สำหรับการละเมิดโดย GOOGLE ต่อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลที่สาม
- 14. ข้อจำกัดความรับผิด
- 14.1 ข้อจำกัดความรับผิดทางอ้อม คู่สัญญาแต่ละฝ่ายไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้ สำหรับกรณีการขาดรายได้หรือความเสียหายทางอ้อม กรณีพิเศษ กรณีที่เกิดขึ้นเอง เป็นผลจากเหตุการณ์อื่น เป็นกรณียกเว้น หรือความเสียหายที่เป็นบทลงโทษ แม้ว่าคู่สัญญานั้นจะทราบหรือควรทราบว่ามีโอกาสที่จะเกิดความเสียหาย และแม้ว่าค่าเสียหายทางตรงจะไม่เพียงพอสำหรับการเยียวยา
- 14.2 ข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินของการรับผิด คู่สัญญาแต่ละฝ่ายไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้เป็นจำนวนเงินที่มากกว่า: (I) หนึ่งพันดอลลาร์ หรือ (II) จำนวนเงินที่ลูกค้าได้ชำระให้แก่ GOOGLE ภายใต้ข้อตกลงนี้ในระหว่างช่วง 12 เดือนก่อนเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าจำนวนไหนมากกว่า
- 14.3 ข้อยกเว้นของข้อจำกัด ข้อจำกัดความรับผิดเหล่านี้มีผลภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แต่ไม่มีผลกับการละเมิดภาระหน้าที่ด้านการรักษาความลับ การละเมิดสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยอีกฝ่าย หรือภาระหน้าที่ในการให้การคุ้มครอง
- 15. เบ็ดเตล็ด
- 15.1 การแจ้ง ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้ (ก) การแจ้งทั้งหมดจะต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งถึงฝ่ายกฎหมายและบุคคลที่ติดต่อของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย และ (ข) การแจ้งถือว่าส่งมอบสมบูรณ์: (i) เมื่อยืนยันด้วยใบรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรถ้าส่งโดยผู้ให้บริการจัดส่งด้วยบุคคล การจัดส่งข้ามคืน หรือเมื่อได้รับถ้าส่งทางไปรษณีย์โดยไม่มีการยืนยันการรับ หรือ (ii) เมื่อยืนยันโดยใบรับอัตโนมัติหรือบันทึกอิเล็กทรอนิกส์ถ้าส่งทางโทรสารหรืออีเมล
- 15.2 การมอบหมาย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถมอบหมายหรือโอนส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อตกลงนี้หากไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย ยกเว้นแก่หน่วยงานในเครือ โดยมีเงื่อนไขดังนี้: (ก) ผู้รับมอบหมายยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีข้อผูกพันตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ และ (ข) ฝ่ายที่มอบหมายยังคงมีความรับผิดต่อภาระหน้าที่ที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงนี้ก่อนที่จะมีการมอบหมาย การพยายามโอนหรือมอบหมายอื่นๆ จะถือเป็นโมฆะ
- 15.3 การเปลี่ยนการควบคุม เมื่อมีการเปลี่ยนการควบคุม (เช่น จากการซื้อหรือขายหุ้น การควบรวมกิจการ หรือธุรกรรมขององค์กรแบบอื่นๆ): (ก) ฝ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการควบคุมจะแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 30 วันนับจากการเปลี่ยนแปลงการควบคุม และ (ข) อีกฝ่ายสามารถยุติข้อตกลงนี้ได้ตลอดเวลาตั้งแต่การเปลี่ยนการควบคุมไปจนครบ 30 วันนับจากที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อ (ก)
- 15.4 สิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม คู่สัญญาจะไม่มีความรับผิดต่อผลการปฏิบัติงานที่ไม่เพียงพอ ภายในขอบเขตที่เกิดจากสถานการณ์ (เช่น ภัยพิบัติตามธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย จราจล เหตุการณ์เกี่ยวกับแรงงาน การกระทำของภาครัฐ และความขัดข้องของอินเทอร์เน็ต) ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สมเหตุสมผลของคู่สัญญา
- 15.5 ไม่มีการสละสิทธิ์ การไม่บังคับใช้ข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ไม่ถือเป็นการสละสิทธิ์
- 15.6 การเป็นโมฆะบางส่วน ถ้าข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ถูกชี้ขาดว่าไม่สามารถบังคับใช้ได้ ส่วนอื่นๆ ของข้อตกลงจะยังคงมีผลสมบูรณ์
- 15.7 ไม่มีตัวแทน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็นผู้รับเหมาอิสระ และข้อตกลงนี้ไม่ถือเป็นการสร้างสถานะตัวแทน หุ้นส่วนหรือกิจการร่วมค้า
- 15.8 ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม ข้อตกลงนี้ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม
- 15.9 การเยียวยาตามสิทธิ์ ข้อตกลงนี้ไม่มีส่วนใดที่จำกัดการแสวงหาการเยียวยาตามสิทธิ์ของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย
- 15.10 กฎหมายที่มีผลบังคับ
- ก. หน่วยงานภาครัฐระดับเมือง มณฑล และรัฐ ถ้าลูกค้าเป็นหน่วยงานภาครัฐระดับเมือง มณฑล หรือรัฐ ทั้งสองฝ่ายยินยอมที่จะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เกี่ยวกับกฎหมายและท้องถิ่นที่มีผลบังคับ
- ข. สำหรับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งหมด ถ้าลูกค้าเป็นหน่วยงานใดๆ ที่ไม่ได้กำหนดในข้อ 15.10 (ก) เงื่อนไขต่อไปนี้จะมีผลบังคับ: ข้อตกลงนี้เป็นไปตามกฎหมายของแคลิฟอร์เนีย ยกเว้นกฎการเลือกกฎหมายของรัฐดังกล่าว สำหรับข้อพิพาทที่เกิดจาก หรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลง คู่สัญญายินยอมที่จะอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลอันเป็นส่วนบุคคลและเฉพาะตัวของศาลที่อยู่ในซานตาคลาราเคาท์ตี แคลิฟอร์เนีย
- 15.11 การแก้ไข การแก้ไขใดๆ จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขข้อตกลงนี้
- 15.12 การบังคับใช้ในภายหลัง ส่วนต่อไปนี้จะยังคงมีผลบังคับใช้แม้ว่าข้อตกลงนี้จะหมดอายุหรือยุติไปแล้ว: 7 (ข้อมูลที่เป็นความลับ), 8.1 (สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา), 12.3 (ผลของการยุติ), 13 (การให้ความคุ้มครอง), 14 (ข้อจำกัดความรับผิด), 15 (อื่นๆ) และ 16 (คำจำกัดความ)
- 15.13 ข้อตกลงทั้งหมด ข้อตกลงนี้และเอกสารทั้งหมดที่อ้างถึงในที่นี้เป็นข้อตกลงทั้งหมดของคู่สัญญาเกี่ยวกับหัวข้อนี้ และมีผลแทนที่ข้อตกลงก่อนหน้านี้หรือที่มีอยู่ในหัวข้อนี้ ถ้าลูกค้าได้รับข้อตกลงที่มีเนื้อหาสาระคล้ายกันในหัวข้อเดียวกันเมื่อเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ ข้อตกลงนี้จะมีผลเหนือกว่าและจะแทนที่ข้อตกลงนั้น ข้อกำหนดที่มีอยู่ที่ URL และอ้างอิงในข้อตกลงนี้ ให้ถือว่ามีการรวมไว้ในที่นี้ด้วยวิธีอ้างอิง
- 15.14 การตีความข้อกำหนดที่ขัดแย้งกัน ถ้ามีข้อขัดแย้งระหว่างเอกสารที่ประกอบเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะมีผลบังคับตามลำดับต่อไปนี้: แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ (ถ้ามี) ข้อตกลง และข้อกำหนดที่อยู่ใน URL ใดๆ
- 15.15 สัญญาคู่ฉบับ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายอาจมีผลผูกพันตามข้อตกลงนี้ด้วยการลงนามในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อที่มีผลบังคับใช้ (ถ้ามี) หรือข้อตกลงนี้ทั้งสองฝ่าย อันได้แก่ สำเนาที่ส่งทางโทรสาร, PDF หรือสำเนาอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งดำเนินการร่วมกันจะถือเป็นเอกสารเดียว
- 16. คำจำกัดความ
- "นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้" หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับบริการใน https://www.google.com/apps/intl/th/terms/use_policy.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "บัญชีผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบัญชีสำหรับการดูแลระบบที่มีให้กับลูกค้าโดย Google เพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลระบบของบริการ การใช้บัญชีผู้ดูแลระบบต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่ง Google จะจัดให้แก่ลูกค้า
- "คอนโซลผู้ดูแลระบบ" หมายถึงเครื่องมือออนไลน์ที่มีให้โดย Google แก่ลูกค้าเพื่อใช้ในการรายงานและฟังก์ชันการดูแลระบบอื่นๆ
- "ผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบุคลากรด้านเทคนิคที่ลูกค้ากำหนดซึ่งดูแลระบบบริการแก่ผู้ใช้ปลายทางในนามของลูกค้า
- "โฆษณา" หมายถึงโฆษณาออนไลน์ ยกเว้นโฆษณาที่มาจากผลิตภัณฑ์โฆษณาใดๆ ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบริการ (เช่น Google AdSense) ซึ่งลูกค้าเลือกที่จะใช้กับบริการ และแสดงแก่ผู้ใช้ปลายทางโดย Google
- "หน่วยงานในเครือ" หน่วยงานใดๆ ก็ตามที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ภายใต้การควบคุมทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
- "ข้อตกลง" หมายถึงข้อตกลงของ Google Apps for Education ฉบับนี้ หรือการใช้แบบฟอร์มคำสั่งซื้อและข้อตกลง Google Apps for Education ฉบับนี้ร่วมกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี
- "ศิษย์เก่า" หมายถึงผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วหรือเป็นนักเรียนเก่าของลูกค้า
- "การเรียกเก็บเงินรายปี" หมายถึงการเรียกเก็บเงินค่าบริการเป็นรายปีตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ (ถ้ามี)
- "วันที่เริ่มต้นเรียกเก็บเงิน" หมายถึงวันที่ลูกค้าจะเริ่มต้นชำระเงินค่าบริการให้กับ Google (ถ้ามี)
- "คุณลักษณะเกี่ยวกับแบรนด์" หมายถึงชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการบริการ โลโก้ ชื่อโดเมน และคุณลักษณะเฉพาะที่เป็นตราสินค้าของคู่สัญญาแต่ละฝ่าย ซึ่งฝ่ายนั้นๆ ถือครองในเวลานั้นๆ
- ข้อมูลที่เป็นความลับ หมายถึงข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่ายหนึ่งแก่อีกฝ่าย ตามข้อตกลงนี้ที่มีการระบุว่าเป็นความลับ หรือถือเป็นความลับในกรณีปกติตามสถานการณ์นั้นๆ ข้อมูลของลูกค้าคือข้อมูลที่ถือเป็นความลับของลูกค้า
- "ข้อมูลของลูกค้า" หมายถึงข้อมูลต่างๆ รวมถึงอีเมล ที่มีให้ สร้างขึ้น ส่งผ่านหรือแสดงผ่านทางบริการโดยลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง
- "ชื่อโดเมนของลูกค้า" หมายถึงชื่อโดเมนที่ลูกค้าเป็นเจ้าของหรือควบคุม ซึ่งจะใช้ร่วมกับบริการตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ ลูกค้าสามารถให้บริการกับโดเมนย่อยใดก็ได้ (เช่น ถ้าชื่อโดเมนของลูกค้าคือ "edu.com" อาจมีโดเมนย่อยเช่น "alumni.edu.com") ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Google
- "วันที่มีผล" หมายถึงวันที่ข้อตกลงนี้ได้รับการลงนามจากทั้งสองฝ่าย
- "ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน" หมายถึง: (ก) การใช้บริการของลูกค้าในลักษณะที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจรบกวน: (i) บริการ (ii) การใช้บริการของลูกค้าท่านอื่น หรือ (iii) เครือข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของ Google ที่ใช้เพื่อให้บริการ หรือ (ข) การเข้าถึงบริการของบุคคลที่สามโดยไม่ได้รับอนุญาต
- "ผู้ใช้ปลายทาง" หมายถึงบุคคลที่ลูกค้าอนุญาตให้ใช้บริการ
- บัญชีผู้ใช้ปลายทาง หมายถึงบัญชีที่ Google ให้บริการซึ่งกำหนดโดยลูกค้าผ่านบริการสำหรับผู้ใช้ปลายทาง
- "กฎหมายควบคุมการส่งออก" หมายถึงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่ควบคุมการส่งออกและการส่งออกซ้ำ รวมถึง Export Administration Regulations ("EAR") ที่บังคับใช้โดยกระทรวงพาณิชย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา การลงโทษทางการค้าและเศรษฐกิจที่บังคับใช้โดยสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ในต่างประเทศของกระทรวงการคลังของประเทศสหรัฐอเมริกา และ International Traffic in Arms Regulations ("ITAR") ที่บังคับใช้โดยกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสหรัฐอเมริกา
- "ค่าบริการ" หมายถึงจำนวนเงินที่ Google เรียกเก็บกับลูกค้าเป็นค่าบริการ (ถ้ามี) ตามที่อธิบายในข้อตกลง
- "FERPA" หมายถึง Family Educational Rights and Privacy Act (20 U.S.C. 1232g) และ Family Educational Rights and Privacy Act Regulations (34 CFR Part 99) ตามที่มีการปรับแก้หรือแก้ไข
- "ประกาศเกี่ยวกับนโยบายส่วนบุคคลของ Google Apps for Education" หมายถึงประกาศใน URL https://www.google.com/intl/th/work/apps/terms/education_privacy.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "ศูนย์ช่วยเหลือ" หมายถึงศูนย์ช่วยเหลือของ Google ที่สามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.google.com/support/ หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง" หมายถึงการใช้งาน เช่น การปฏิบัติการในหน่วยงานด้านนิวเคลียร์ การควบคุมการจราจรทางอากาศ หรือระบบช่วยชีวิต ซึ่งการใช้งานหรือการทำงานล้มเหลวของบริการอาจนำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บ หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม
- HIPAA หมายถึงกฎหมาย Health Insurance Portability and Accountability Act ปี 1996 ซึ่งอาจมีการแก้ไขในบางเวลา และระเบียบข้อบังคับใดๆ ที่ออกภายใต้กฎหมายนี้
- "สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคตตามกฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า กฎหมายสิทธิ์โดยชอบธรรมและสิทธิ์อื่นๆ ที่คล้ายกัน
- "ระยะเวลาของบริการเริ่มต้น" หมายถึงระยะเวลาสำหรับการเริ่มต้นบริการตามวันที่เริ่มต้นบริการ ต่อเนื่องไปตาม "ระยะเวลาของบริการในปัจจุบัน" ดังที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ นับจากวันที่เริ่มต้นเรียกเก็บเงิน (ถ้ามีแบบฟอร์มคำสั่งซื้อสำหรับบริการ) หรือถ้าไม่มีแบบฟอร์มคำสั่งซื้อสำหรับบริการ จะเป็นระยะเวลาที่เริ่มต้นในวันที่มีผลต่อเนื่องไปเป็นเวลา 1 ปี
- "ค่าบริการเริ่มต้น" หมายถึงค่าบริการสำหรับระยะเวลาของบริการเริ่มต้น (ยกเว้นค่าบริการแบบครั้งเดียว) ตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ (ถ้ามี)
- "การเรียกเก็บเงินรายเดือน" หมายถึงการเรียกเก็บเงินค่าบริการเป็นรายเดือนตามที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ (ถ้ามี)
- "ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps" หมายถึงผลิตภัณฑ์ Google ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของบริการ แต่ผู้ใช้ปลายทางอาจเข้าถึงได้โดยใช้การลงชื่อเข้าใช้และรหัสผ่านของผู้ใช้ปลายทาง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps กำหนดไว้ใน URL https://www.google.com/support/a/bin/answer.py?hl=th&answer=181865 หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Apps" หมายถึงข้อกำหนดที่มีให้ที่ URL https://www.google.com/apps/intl/th/terms/additional_services.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบในบางโอกาส
- "ที่อยู่อีเมลสำหรับการแจ้งเตือน" หมายถึงที่อยู่อีเมลที่ลูกค้ากำหนดเพื่อรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจาก Google ลูกค้าสามารถเปลี่ยนที่อยู่อีเมลนี้ได้ผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบ
- "แบบฟอร์มคำสั่งซื้อ" หมายถึงแบบฟอร์มคำสั่งซื้อ ซึ่งเป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ได้จาก Google โดยจะระบุถึงบริการที่ลูกค้าจะซื้อจาก Google โดยมีค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) ตามข้อตกลง แบบฟอร์มคำสั่งซื้อจะมี: (i) ช่องลายเซ็นสำหรับลูกค้า หรือสำหรับทั้งลูกค้าและ Google (ii) SKU ของบริการที่มีผลบังคับใช้ (iii) ค่าบริการ (ถ้ามี) และ (iv) จำนวนและระยะเวลาของบริการในปัจจุบันของบัญชีผู้ใช้ปลายทาง
- "คำสั่งซื้อ" หมายถึงคำสั่งซื้อที่ลูกค้าเป็นผู้ออก
- "บริการ" หมายถึงบริการหลักของ Google Apps for Education, Google Classroom และบริการของ Google Apps ห้องนิรภัย ถ้ามี ซึ่งให้บริการโดย Google และใช้งานโดยลูกค้าตามข้อตกลงนี้ รายละเอียดของบริการแสดงไว้ที่ https://www.google.com/apps/intl/th/terms/user_features.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "วันที่เริ่มต้นบริการ" คือวันที่ Google เริ่มให้ลูกค้าสามารถใช้บริการได้
- "หน้าเว็บบริการ" หมายถึงหน้าเว็บที่แสดงบริการแก่ผู้ใช้ปลายทาง
- "ระยะเวลาของบริการ" หมายถึงระยะเวลาบริการเริ่มต้นและระยะเวลาต่ออายุสำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง
- "SLA" หมายถึงข้อตกลงระดับการบริการใน https://www.google.com/apps/intl/th/terms/sla.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "พนักงาน" หมายถึงบุคคล (รวมถึงหน่วยงาน) ที่ลูกค้าเป็นผู้ว่าจ้าง นักเรียนหรือศิษย์เก่าที่เป็นพนักงานด้วยนั้น จะถือว่าเป็นพนักงานภายใต้ข้อตกลงนี้ (และได้รับการยกเว้นจากคำจำกัดความของนักเรียนหรือศิษย์เก่า) ถ้าได้รับการว่าจ้างจากลูกค้าภายในเวลา 12 เดือนล่าสุด
- "นักเรียน" หมายถึงบุคคลที่ลงทะเบียนในชั้นเรียนตามที่ลูกค้ามีให้ภายในระยะเวลา 12 เดือนล่าสุด
- "ระงับ" หมายถึงการปิดการเข้าถึงบริการหรือบางส่วนของบริการ ตามแต่กรณี ในทันทีเพื่อป้องกันการใช้บริการ
- "ภาษี" หมายถึงอากร ภาษีศุลกากร หรือภาษี (นอกเหนือจากภาษีเงินได้ของ Google) ที่เชื่อมโยงกับการขายบริการ รวมถึงค่าปรับและดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง
- "ระยะเวลา" หมายถึงระยะเวลาของข้อตกลง ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่มีผลและดำเนินต่อไปจนถึงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าข้อใดถึงก่อน: (i) เวลาสิ้นสุดระยะเวลาของบริการสุดท้าย หรือ (ii) ข้อตกลงถูกยุติตามที่ระบุในที่นี้
- "คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอจากบุคคลที่สามสำหรับระเบียนข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้ปลายทาง คำขอของบุคคลที่สามอาจเป็นหมายค้นตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายศาล คำสั่งตามกฎหมายที่มีผลบังคับอื่นๆ หรือคำยินยอมอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ปลายทางที่อนุญาตให้มีการเปิดเผย
- "TSS" หมายถึงบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่มีให้โดย Google แก่ผู้ดูแลระบบระหว่างระยะเวลาตามหลักเกณฑ์ TSS
- "หลักเกณฑ์ TSS" หมายถึงหลักเกณฑ์ของบริการสนับสนุนทางเทคนิคของ Google ที่มีผลในขณะนั้นสำหรับบริการ โปรดดูหลักเกณฑ์ TSS ที่ URL https://www.google.com/apps/intl/th/terms/tssg.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจแจ้งให้ทราบ
- "ข้อกำหนดของ URL" หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ข้อตกลงระดับบริการ และหลักเกณฑ์ TSS